มีก้านผอมยาวอยุ่ที่ก้น ทำให้ sporangia มองดูคล้ายของเล่นเด็ก แบบที่เขย่าให้เกิดเสียงดัง
เนื้อเยื่อผนังที่รัดรอบสปอร์ภายในหนาเพียงเซลล์ชั้นเดียว เรียกว่า annulus ในเฟินบางชนิด มี และเฟินบางชนิด ไม่มี เยื่อ
ที่เรียกกันว่า indusium ที่สร้างขึ้นมา เพื่อปกป้องในระหว่างการสร้างสปอร์ และจะเปิดออกเมื่อสปอร์โตเต็มที่ indusium นี้
การสร้างสปอร์ใน Sporangia เป็นขบวนการแบ่งเซลล์แบบ meiosis โดยมีเซล์ต้นแบบ เป็น Diploid
มีโครโมโซม 2 ชุด (2n) เมื่อแบ่งเซลล์แล้ว จะได้ เซลล์ใหม่ 4 อัน เป็น Haploid spores มีโครโมโซม 1 ชุด (n)
และถือเป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของชีวิตในระยะ Gametophyte
หลังจากที่ สปอร์ใน sporangia แก่เต็มที่ และ Anulus เป็นผนังบางๆ จะเปิดออก ปลอดปล่อยให้สปอร์กระเด็นออกไป
สปอร์ เดี่ยว จำนวนมากมาย ที่ปลดปล่อยออกมานั้น มีขนาดเล็กมากขนาดเท่าอนุภาคฝุ่น สามารถปลิวกระจายไปตามลม
หรือลอยไปตามน้ำ ไปได้เป็นระยะทางไกลๆ อันนี้ ต้องถือว่า เป็นช้อดีของเฟินที่มีการสร้างสปอร์เป็นเม็ดเล็กๆ
ให้สามารถเดินทางไปได้เป็นระยะทางไกลทำให้มีโอกาสไปตกบริเวณที่มีความเหมาะสมได้หลายพื้นที่
เมื่อสปอร์ปลิวไปตกบนบริเวณที่มีความชื้นเหมาะสม สปอร์จะงอกและพัฒนาขึ้นเป็น โปรธัลลัส
โดยเริ่มจากสปอร์งอกเป็น filament เป็นเส้นยาวของเซลล์เรียงต่อกัน คล้ายเส้นด้าย มีโคโรพลาสต์
มีการแบ่งแซลล์แบบ Mitosia ขยายเนื้อเยื่อออกเป็นแผ่นบางๆ รูปหัวใจ มีความหนาเพียงเซลล์ชั้นเดียว
มีโครโรฟิลด์เพื่อการสังเคราะห์แสง มีรากฝอยแบบ rhizoids ทำหน้าที่ดูดซับน้ำและธาตุอาหาร เข้ามาและสังเคราะห์แสง
ที่ผิวด้านบน สร้างอาหารเลี้ยงตัวเองได้ ถือว่า มีชีวิตเป็นอิสระ เหมือนกับพืชทั่วไปทุกประการ
ต่อมา โปรธัลลัส เจริญเติบโตเต็มวัยแล้ว จะพัฒนาสร้างอวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมีย ที่ผิวด้านใต้ของโปรธัลลัส
ต่อมา โปรธัลลัส เจริญเติบโตเต็มวัยแล้ว จะพัฒนาสร้างอวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมีย ที่ผิวด้านใต้ของโปรธัลลัส
อวัยวะสืบพันธุเพศผู้ Antheridia อยู่ที่ผิวด้านล่าง รอบๆ ขอบของโปรธลลัสส่วนล่าว มีลักษณะที่เป็นติ่งเล็กๆ ยื่นออกมา
และสเปิมถูกสร้างขึ้นภายใน antheridium โดยขบวนการแบ่งแซลล์แบบ mitosis เมื่อสเปิมที่สร้างขึ้นมา โตเต็มที่
และมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ผนังของ Antheridia จะเปิดออกและปล่อยให้สเปิม ว่ายน้ำออกไป
ส่วนอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย เรียก Archegonia อยู่บริเวณใจกลางของโปรธัลลัสรูปหัวใจ มีรอยแยกลงไปใน
ผิวของโปรธัลลัส ส่วนนี้ ทำหน้าที่สร้าง ไข่เพศเมีย เป็นเซลล์เดี่ยว เก็บไว้ภายใน
มีการสร้างผนังเป็นท่อ และสร้าง malic acid เพื่อนำร่องให้กับสเปิมเพศผู้ว่ายน้ำเข้าไป
จากนั้น ขบวนการการผสมพันธุ์จะเริ่มต้นขึ้น แต่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีความชุ่มชื้นสูงมากเพียงพอ มีน้ำในปริมาณที่
พอเหมาะเกาะเป็นผิวบางๆ อยู่ใต้โปรธัลลัส เท่านั้น
<><> ผิวของโปรธัลลัส ส่วนนี้ ทำหน้าที่สร้าง ไข่เพศเมีย เป็นเซลล์เดี่ยว เก็บไว้ภายใน
มีการสร้างผนังเป็นท่อ และสร้าง malic acid เพื่อนำร่องให้กับสเปิมเพศผู้ว่ายน้ำเข้าไป
จากนั้น ขบวนการการผสมพันธุ์จะเริ่มต้นขึ้น แต่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีความชุ่มชื้นสูงมากเพียงพอ มีน้ำในปริมาณที่
พอเหมาะเกาะเป็นผิวบางๆ อยู่ใต้โปรธัลลัส เท่านั้น
<><>
เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม สเปิมเพศผู้จึงว่ายน้ำออกจาก Anteridia ในขณะที่ Archegonia จะเปิดปาก ผนังท่อออกพร้อมกับสร้าง malic acid ออกมา เพื่อดึงดูดและนำทางให้กับสเปิม เพื่อให้สเปิมสามารถว่าย เข้าไปไข่เพศเมียใน Archegonia ได้ บนโปรธัลลัสอีกต้นหนึ่ง เพราะ เซลล์ทั้งสองจะบนโปรธัลลัสเดียวกันจะโตเต็มวัยที่ไม่พร้อมกัน เป็นวิธีการอันชาญฉลาดของโปรธัลลัส ในการป้องกันการผสมพันธุกันเองบนโปรธัลลัสเดียวกัน เมื่อสเปิมเพศผู้เข้าไปหาไข่เพศเมียแล้ว ทั้งสองเซลล์ ซึ่งเป็น haploid (n) รวมตัวผสมพันธุ์ กันเกิดเป็นเซลล์เดียว เป็นเซลล์ diploid zygote (2n) และเริ่มขบวนการแบ่งเซลล์แบบ mitosis เพิ่มจำนวนเซล์และพัมนาขึ้นเป็น Embryo ของ diploid sporophyte ต่อไป และถือเป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของชีวิตในระยะ Sporophyteโดยปกติ สเปิดจากโปรธัลลัสหนึ่ง จะว่ายน้ำไปหา Archegonia |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น